***เอดส์ AIDS จัดเป็นกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการ
ติดเชื้อไวรัส เอชไอวี (HIV – Human Immunodeficiency
Virus) พบผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์คนแรกเป็นชายที่มีลักษณะ
รักร่วมเพศที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๔ แต่สำหรับ
ที่พบในประเทศไทยมีการพบครั้งแรกเมือปี พ.ศ. ๒๕๒๗
การทำงานของโรคเอดส์โดยเชื้อจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว
และเซลล์หลายชนิดในระบบภูมิคุ้มกันให้เสียหายโดยเฉพาะที่
สำคัญคือ CD 4 Lympocytes ทำให้ภูมิต้านทานลดน้อยลง
จนทำให้เกิดเป็นโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ
****การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ที่ได้รับการยืนยันของการแพร่ระบาด
กลุ่มแรก คือ ชายรักร่วมเพศ
กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มของผู้ติดยาเสพติด ชนิดที่ฉีดเข้าเส้นเลือด
กลุ่มที่สาม คือ กลุ่มของหญิงขายบริการทางเพศ โดยกลุ่มนี้จะเป็น
กลุ่มเป้าหมายในการรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
กลุ่มที่สี่ คือ กลุ่มชายนักเที่ยวทั่วไป
กลุ่มที่ห้า คือ กลุ่มของแม่บ้านหรือหญิงทั่วไป แฟน หรือ หญิง
มีครรภ์ รวมถึง ทารกด้วย
ในปัจจุบันพบการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่
เพราะส่วนมากเกิดจากการทีเพศสัมพันธ์แบบฉาบฉวย เช่น
กับเพื่อน กับแฟน โดยไม่ได้ป้อง(ไม่ใช้ถุงยางอนามัย)
***การป้องกันตนเองจากโรคเอดส์ ที่สำคัญสำหรับคนที่มีหรือ
ไม่ครองครัวคือ
๑.ผู้ที่มีครอบครัวแล้วต้องรักเดียวใจเดียวและยังใช้ได้แม้แต่ผู้ที่ยังไม่มี
ครอบครัวด้วย
๒.ถ้าไม่แน่ใจต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งไม่เว้นแม้แต่กับภรรยา
เพราะผู้ชายส่วนมากมักชอบเที่ยวอยู่เมื่อมีเพศสัมพันธ์มากจาก
ภายนอกแล้วไม่แน่ใจจึงควรป้องกันคนที่เรารักไว้ก่อน
๓.ควรตรวจเอดส์ก่อน แต่งงาน และ ก่อนตั้งครรภ์เสมอทุกครั้ง
๔.ควรงดสารเสพติดทุกชนิดแม้แต่สุราเพราะจะครองสติไม่ได้
๕.ให้หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมร่วมกันเช่น เข็มฉีดยา
***การติดต่อของโรคเอดส์ ส่วนมากมักจะติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์
โดยไม่สวมใส่ถุงยางอนามัย และสามารถติดต่อทางเลือด โดยจะ
มาจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และการรับบริจาคเลือด หรือแม้แต่
การติดเชื้อจากแม่สู่ลูกทั้งในระหว่างอยู่ในครรภ์ ระหว่างคลอด
หรือโดยผ่านทางน้ำนมจากแม่ เป็นต้น
***ผู้ที่ควรตรวจหาเชื้อเอดส์ มีดังนี้
๑.หญิงที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเช่น หญิงขายบริการ หรือ วัยรุ่นที่
มีเพศสัมพันธ์แบบฉาบฉวย และชายรักร่วมเพศด้วย
๒.ผู้คิดจะแต่งงาน
๓.ผู้ที่สงสัยคู่นอนมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ชอบเที่ยว หรือ ชอบรักร่วมเพศ
๔.เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ หรือ ต้องการตั้งครรภ์
๕.ผู้ที่ต้องไปทำงานในต่างประเทศบ่อย ๆ
***อาการของโรคเอดส์ จะมีอาการแบ่งออกเป็น ๓ ระยะ
๑.ในระยะแรกจะไม่แสดงอาการ และการตรวจเลือดจะได้
ผลบวกหลังจากได้รับเชื้อประมาณ ๖ สัปดาห์ขึ้นไป
๒.ระยะมีอาการ โดยจะเริ่มมีอาการหลังจากได้รับเชื้อ HIV
ประมาณ ๘-๑0 ปี อาการที่ปรากฏเช่น มีไข้เรื้อรัง ท้องเสีย
มีเชื้อราในปาก เริม เป็นต้น
3.ระยะโรคเอดส์ ภูมิต้านทานในร่างกายจะลดต่ำลงมาก ทำให้
ติดเชื้อแทรกช้อนรุนแรงเช่น วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
จากเชื้อรา มะเร็งบางชนิดและทำให้เสียชีวิตได้
***ข้อควรปฏิบัติเมื่อติดเอดส์
๑.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
๒.ออกกำลังกายบ่อย ๆ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง
๓.ต้องสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
๔.งดบริจาคโลหิต หรืออวัยวะ และหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด
๕.ไม่ควรตั้งครรภ์
๖.อยู่สถานที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
๗.ทำจิตใจให้เข้มแข็ง
๙.พบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
***โรคเอดส์เป็นโรคที่ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายได้
ดังนั้นผู้ที่เป็นแล้วจึงควรป้องคนที่เรารักด้วยการไม่ไปแพร่
เชื้อโดยเฉพาะกับภรรยา หรือ กับ บุคคลอื่นเพราะนอกจาก
จะทำให้ผู้อื่นต้องติดเชื้อตามไปด้วย ก็จะเป็นเวรเป็นกรรม
ต่อกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น