วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ปวดปัสสาวะบ่อย


***อาการที่เราปวดปัสสาวะบ่อยเป็นเรื่องที่ทำให้รำคาญอีกอย่าง

เพราะจะไปไหนที่ก็กังวลว่าจะหาห้องน้ำไม่มีหรือต้องคอยเข้าบ่อย

ๆ เมื่อเวลาเดินทางไกลจึงทำให้เครียดได้เหมือนกัน ส่วนมากเวลา

ที่เราปวดปัสสาวะก็คือช่วงเวลาที่อากาศเย็นหรืออยู่ในห้องแอร์

แต่เมื่อลมเหนือหรือลมหนาวผ่านมาก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรก็เลย

****อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ปัสสาวะบ่อยก็คือการดื่มกาแฟในวันธรรมดา

ก็ดูจะไม่เป็นไรแต่ช่วงอากาศเย็นก็เป็นเรื่องได้เหมือนกันดังนั้น

คนที่ต้องปัสสาวะบ่อยจึงไม่ค่อยอยากจะดื่มน้ำกันก็แบบผม

ส่วนมากจะไม่ดื่มเอาเลยเวลาจะต้องขึ้นรถโดยสารหรือต้อง

ขับรถไปทางไกลเพราะขี้คร้านแวะปั้มน้ำมันนะครับ

***วันนี้กะว่าจะมาบอกวิธีที่พอจะทำให้เรื่องปัสสาวะบ่อย ๆ

ให้พอบรรเทาลงไปได้บ้างเพราะผมใช้วิธีนี้แล้วได้ผลค่อยข้างดี

คือถึงต้องปัสสาวะก็ไม่บ่อยเหมือนอย่างเคยก็ลองนำไปใช้ดู

นะครับมีแค่วิธีเดียว (ตอนนี้ที่ทำอยู่)ไว้ถ้าเจอวิธีที่ดีกว่านี้จะ

นำมาบอกเล่ากัน

***วิธีที่ทำให้เราปัสสาวะไม่บ่อยหรือทำให้พอมีเวลาได้หายใจ

กันมากขึ้นก็มีว่า ให้เราฝึก ขมิบก้น ก็ให้นึกถึงตอนที่เราปวด

อุจจาระแล้วเราขมิบไว้ไม่ให้มันออกก่อนเวลานั่นแหละครับ

คือในวันวันหนึ่งอย่างน้อยก็ต้องทำการขมิบให้ได้ประมาณ

200 ครั้ง แต่อย่างเพิ่งตกใจนะครับคือแบบว่าให้เราทำดังนี้

คือให้เราขมิบก้นแล้วนับ 1-10 วินาทีแล้วคลายก็ทำไปเรื่อย ๆ

คือมีเวลาหรือนึกได้ก็ทำเลย ส่วนของผมส่วนมากจะทำช่วง

เช้าพอรู้สึกตัวก็ทำเลยสัก 50-60 แล้วค่อยลุกขึ้นไปทำธุระและ

จะทำอีกที่เมื่อนึกขึ้นได้หรือมีเวลา ที่หรือก็ทำตอนก่อนนอน

***การขมิบก้นเราจะทำกี่ครั้งก็ได้แต่อย่างน้อยกว่า 200

นะครับจะได้ผลดีก็น่าจะสักประมาณ 3 วันก็เห็นแล้วว่า

อาการดีขึ้นก็อย่าใจร้อนนะครับถ้าต้องผายลมก็อย่าไป

ขมิบเข้าล่ะ ใครมีอะไรที่ดีกว่าก็บอกกันหน่อยนะครับเพราะ

ผมก็ยังหาวิธีที่ดีกว่าไม่ได้แต่ตอนนี้อาการดีกว่าเดิม

มากไม่ต้องกังวลเรื่องเดินทางไหนไกล ๆอีกช่วงอากาศหนาว

ก็มีความสุขแบบนี้นี่เอง สวัสดีครับ

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ภูมิแพ้


***ภูมิแพ้แก้ไม่หายแต่ก็พอจะให้ทุเลาลงไปได้บ้าง

ผมก็เป็นภูมิแพ้ครับ แพ้อากาศที่เย็น(แอร์) แพ้ฝุ่น

เจ็บจมูกมากและมีน้ำมูกตลอดเลยยิ่งช่วงเช้า ๆ ด้วย

จะมีน้ำมูกมากและเยอะไม่รู้ว่ามาจากไหนสั่งก็แล้ว

ไม่รู้ว่ากี่หนกี่หนก็ยังมีไม่รู้หมด รำคาญมากกว่าครับ

***เรื่องของภูมิแพ้เคยไปหาหมอหลายครั้งหมอก็บอกว่า

รักษาไม่หายหรอกนอกจากกินยา แต่การกินยาก็ช่วย

แค่พอยาหมดเท่านั้น ช่วงนี้เลยต้องหาวิธีแก้ไขไปเอง

อย่างน้อยก็ให้อาการดีขึ้นเพราะถึงไม่หายก็ไม่แย่

ลงไปกว่านี้ วิธีที่ผมแนะนำก็เป็นวิธีที่ผมทำอยู่และ

ก็ได้ผลบ้างคืออาการน้อยลงและผลน่าพอใจครับ

ก็เลยนำมาแนะนำกัน

***อาการภูมิแพ้เกิดได้หายไม่ได้นอกจากกันอาการ

ไม่ให้กำเริบหรือให้อาการเกิดน้อยลงถึงน้อยที่สุดเท่า

ที่เราจะทำได้ มีคำแนะนำคือ

1. ถ้าเราไม่นอนแอร์ได้ก็จะยิ่งดีแต่ถ้าเป็นคนที่ขี้ร้อน

ก็ต้องนอนกันล่ะครับ ส่วนของผมถ้าต้องนอนผมก็

จะใช้ ผ้าปิดจมูกครับ คือให้เราหาผ้าปิดจมูกที่เมื่อ

เราปิดแล้วยังสามารถหายใจได้สะดวกนะครับคือ

อย่าหนามาจนหายใจไม่ออกล่ะ ผมใช้เมื่อต้องนอน

ห้องแอร์ จะรู้สึกสบายตื่นนอนน้ำมูกก็ไม่มีแต่ต้องระวัง

นะครับว่าผ้าปิดจมูกต้องเป็นผ้าที่ไม่หนาและเราต้อง

หายใจได้สะดวกด้วย

2. คนที่นอนพัดลมหรือชอบเป่าพัดลมตลอดคืนก็จะทำให้

อาการแย่ลงทุกวันแหละครับโดยเฉพาะให้พัดลมเป่า

จากเท้าขึ้นมาเพราะจะทำให้ลมเข้าจมูกได้แบบสบาย

เลยและอาการก็จะแย่ลงเจ็บจมูกมากขึ้นโดยเฉพาะตอน

เช้าจะยิ่งแย่จนเห็นได้ชัดเลย การใช้พัดลมช่วยให้คลายร้อน

ทำได้ครับแต่อย่า “อย่าให้พัดลมเป่าขึ้นมาทางจมูก” และ

“อย่าให้พัดลมเป่าจากหัวลงมาที่เท้า” เพราะจะทำให้สุขภาพ

เราแย่ลลงไปด้วยอาการหวัดจะถามหาถ้าเป่าพัดลมจาก

ศรีษะ วิธีที่ดีคือ ให้เราเปิดพัดลมแล้วให้ปรับทิศทางของ

ลมให้พัดถูกตัวตั้งแต่บริเวณช่วงกลางลำตัวจะดีกว่า

สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้นะครับ เพราะนอกจากช่วยให้ไม่ร้อน

แล้วยังทำให้อากาศหรือฝุ่นละอองเข้าจมูกน้อยลง

อาการก็จะดีขึ้นอย่างน้อยก็ตั้งแต่เริ่มนอนจนถึงตอน

เช้าทีเดียว

3. ควรหมั่นกวาดบ้านเช็ดถูรอบ ๆ ห้องนอนให้สะอาด

อยู่เสมออย่าให้มีฝุ่นหรือความอับชื้นอยู่ในห้องนอน

4. ควรซักปลอกหมอนและผ้าห่มนอนให้บ่อยเท่าที่จะทำได้

เพราะจะช่วยลดฝุ่นและเชื้อโรคลงไปได้อย่างมาก

5. อย่าเอาอะไรก็ตามเข้าไปแหย่ทำความสะอาดในช่อง

จมูกเด็ดขาดเพราะจะยิ่งทำให้อักเสบ วิธีที่ดีที่สุดในการ

ทำความสะอาดช่องจมูกคือ ให้ใช้น้ำเกลือ*เป็นน้ำเกลือ

ที่ใช้ทำความสะอาดช่องจมูก นำมาล้างจะดีกว่าวิธีล้าง

โพรงจมูกก็ง่ายครับ เมื่อเราไปซื้อน้ำเกลือล้างโพรงจมูก

มาแล้วทางร้านก็ให้ กระบอกฉีดยามาให้ด้วยก็ให้เรานำ

กระบอกฉีด(ไม่มีเข็ม)มาดูดน้ำเกลือขึ้นมาจากนั้นก็ให้เรา

กลั้นลมหายใจไว้เงยหน้านิดหนึ่งจากนั้นก็ค่อยฉีดน้ำเกลือ

เข้าไปในโพรงจมูกแล้วก็ก้มลงให้น้ำเกลือไหลออกมา

ทำอย่างนี้ทั้งสองข้างจะรู้สึกว่าโพรงจมูกโล่งขึ้นและ

น้ำมูกลดลงอีกอย่างโพรงจมูกก็จะไม่เหม็นด้วยเพราะคนที่

เป็นภูมิแพ้จะเหม็นมากที่โพรงจมูกเราไม่รู้หรอกครับลอง

ถามคนข้าง ๆ เขาจะบอกเราเองว่ามันเหม็นจริง

6. ในกรณีที่เราเจ็บโพรงจมูกเมื่อเวลาเรานอนเจ็บข้างไหน

ก็ให้เราเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิดที่โพรงจมูกข้างที่เราเจ็บ

คืออย่าให้อากาศเข้าไปสักพักอาการก็จะดีขึ้นอย่าทำทั้งสอง

ข้างนะครับ

7. อาหารถ้าได้อาหารประเภทต้มจืดหรือแกงจืดอย่างน้อย

มีทุกเมื้อก็จะดีเพราะจะให้น้ำมูกอ่อนตัวและง่ายในการ

สั่งน้ำมูกออกมาอีกอย่างอาหารประเภทนี้จะทำให้โพรง

จมูกโล่งดีกว่าทานอาหารที่มัน มาก ๆ

****ที่ผมทำประจำก็มีแค่นี้แหละครับคือภูมิแพ้นี่มันก็เกี่ยวกับอากาศ

ที่เราสูดเข้าไปนั้นแหละครับ ยิ่งมีฝุ่นละออง หรือ ถ้ามีความเย็นของ

อากาศมาก ๆ ก็คือมีความชื้นเข้าไปในโพรงจมูกมากด้วยเหมือนกัน

ให้เราระวังสองสิ่งนี้ก็พอครับอย่างน้อยเมื่อรักษาไม่หายก็ไม่ต้อง

มานั่นทรมานกันอยู่อีก ทำให้อาการแค่ทุเลาถึงไม่หายแต่ก็อยู่

กับมันได้ และต้องอยู่อย่างมีความสุขด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

อาหารกับสุขภาพ

***ทานอาหารดีก็สามารถกันเราให้ห่างจาก
โรคภัยได้ อาหารที่เหมาะกับคนที่ร่างกาย
ป่วยหรือเป็นเป็นหาย ๆ ถ้ารับประทานอาหาร
ที่เหมาะกับร่างกายก็จะทำให้อาการพอจะ
บรรเทาได้ไม่มากก็คงไม่น้อยเกิน
***อาการเจ็บคอเป็นอาการที่เป็นกันมาก
ยิ่งเจออากาศแบบ กทม. ด้วยก็จะเป็นกัน
ได้ง่ายขึ้น บ้างคนรู้ว่าเจ็บคอแต่ก็ยังกิน
อาหารที่แสลงกับอาการเพราะเหตุผลเดียว
คือความอร่อยหรือเพราะชอบ แล้วก็ไป
พึ่งหมอเอายามากินนอกจากไม่หายแล้ว
อาการก็จะกลายเป็นเรื้อรังไปในที่สุด
***เรื่องอาหารที่ทำให้เรารู้สึกว่ากินได้ง่าย
กลับไม่กิน คุณเชื่อไหมว่าอาหารทำให้เรา
ไม่ต้องเป็นหรือเกิดอาการป่วยขึ้นก่อนแล้ว
ค่อยทำกินแต่ทำกินเลยจะได้ป้องกันไม่ให้
เกิดอาการที่ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว
***ถ้าคุณเกิดว่าจะเจ็บคอหรือเจ็บคอเอามาก
ก็ไม่ต้องไปหาหมอหรอกครับ แค่ให้เราหาน้ำ
อุ่น ๆ มาสักแก้วใส่เกลือนิดแล้วก็จิบต่างน้ำ
อาการก็จะดีขึ้น แต่ถ้าใครชอบเปรี้ยวก็สามารถ
นำมะนาวมาบีบเอาน้ำออกแล้วก็นำเกลือมา
ผสมนิดหน่อยจากนั้นก็ดื่มครับท่าน รับรอง
ดีกว่ายาและไม่ต้องเสียเงินอะไรมากมาย
***ส่วนเรื่องของอาหารก็เป็นอีกอย่างที่อยาก
จะแนะนำก็อย่างเช่น มะระขี้นก ต้มกินกับน้ำพริก
ก็อร่อย หรือ ต้มจืดมะระยัดใส่หมูสับก็น่ากิน
หรือถ้าใครไม่ชอบรสขมของมะระ ก็นี่ครับ
ต้มจืดฝักเขียว จะใส่อะไรก็ได้หรือกินเป็น
ชุปกันเลยก็ไม่ว่ากัน อันนี้ควรห่างไกลจากเครื่อง
เทศที่ให้รสเผ็ดสักพัก กับอาหารที่มีความมัน
ของทั้งเนื้อสัตว์ น้ำมันพืช หรือน้ำมันหมูเรียก
ว่าของมัน ๆ ให้เลี่ยงไปเลยเพราะมันแสลงต่อ
อาการระคายคอทั้งนั้นและที่สำคัญน้ำเย็น
ถ้าไม่ดื่มได้จะดีแต่ให้ดื่มน้ำอุ่นแทนทุกครั้ง
โดยไม่จำเป็นว่าต้องเจ็บคอก่อนแล้วค่อยทำ
***ทุกอย่างที่ทานแล้วไม่ระคายคอทานเถอะ
ครับแต่ไม่ใช่ว่าจะให้ทานกันแบบนี้อย่างเดียว
คือควรทานทุกครั้งที่มีโอกาสเพราะเป็นอาหาร
ที่จะทำให้ร่างกายไม่เจ็บหรือป่วยง่าย
สวัสดีครับ

วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สูตรยาแก้ปวดฟัน

มาทำยาแก้ปวดฟันกัน

***สวัสดีครับช่วงนี้ไม่รู้จะเอาอะไรมาฝากกัน

ก็เลยคิดได้ว่าสมัยเป็นเด็กเวลาปวดฟันทีไร

ยายจะทำยาแก้ปวดฟันมาให้ใช้คือจับอุดกันเลย

มีหลายสูตรครับก็เลยนึกได้สูตรหนึ่ง

ไงก็ลองทำกันใช้ดูนะครับนอกจากฟันหาย

ปวดแล้วยังรักษารากฟันได้ดีอีกด้วย

***สูตรทำยาแก้ปวดฟันมีส่วนผสมดังนี้

๑การบูร

๒สารส้ม

๓เกลือ

***วิธีทำคือให้เรานำเอาเกลือและสารส้ม

ไปสะตุไฟให้สุกเสียก่อน (สะตุก็คือการนำไป

ทำให้เกลือหรือสารส้มให้เป็นผงก่อน)ถ้าผมจำ

ไม่ผิดนะเพราะเห็นยายบอกที่ไรก็ สะตุ

อีกอย่างเกลือยายจะใช้เกลือตัวผู้ เมื่อเรา

ทำให้เกลือและสารส้มสุกแล้วก็ให้นำ

ทั้งสามอย่างมาบดรวมกันให้ละเอียด

***วิธีใช้ก็ให้นำสิ่งที่เราบดแล้วนั้นมาห่อ

ด้วยสำลีมุดตรงบริเวณที่ปวดสักพักอาการ

ปวดก็จะค่อย ๆ หายไปเอง

***ยุ่งยากหน่อยแต่รับรองผลครับเพราะ

ผมโดนทุกทีเวลาปวดฟัน สูตรใครก็สูตรใคร

ครับเพราะของแม่ก็จะเป็นอีกอย่าง อ้อหลาย

อย่างครับแล้วจะนำมาฝากกัน สวัสดีครับ

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

อาการเป็น”ชี๊ด”


***เมื่อกลางปีภรรยามีอาการปวดเหน็บ ๆ

บางที่ก็เจ็บจนป่วยก็มี ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรจึง

ไม่ได้ไปหาหมอ แต่พอเจ็บนานเข้าจึงไปให้

หมอตรวจปรากฏว่าเป็น ชี๊ด ครับมีอยู่ 2 ก้อน

เม็ดเล็กกว่าหัวไม่ขีด

***ตามที่หมอบอกจะอยู่บริเวณ หน้า และหลัง

บริเวณมดลูกหมอแนะนำให้ฉีดยาคุมกำเนิด

ถ้ายังไม่ต้องการมีลูก แต่ถ้ามีลูกก็จะหายไป

หมออธิบายว่า เวลามีเลือดประจำเดือนไอ้เจ้า

เลือดประจำเดือนนี้จะเป็นอาหารที่จะไปเลี้ยง

ก้อนชี๊ดให้โตขึ้นเรื่อย ๆ

***ดังนั้นการทำให้ประจำเดือนหายไปหรือ

หมดไปก็จะทำให้ไม่มีอาหารไปเลี้ยงก้อนชี๊ด

อาการปวดหรือเจ็บก็จะหายไป ดังนั้นผมจึง

จำเป็นต้องให้แฟนฉีดยาคุมเพราะสงสาร

เค้ามาก

***แต่ผมสังเกตว่าถ้าแฟนเคลื่อนร่างกายมาก

ๆ เช่นเดินหรือทำงานปรกติ คือเคลื่อนไหวร่างกาย

มากหน่อยแต่อย่าวิ่ง หรือหักโหมเกินไป

เค้าก็จะไม่ปวด แต่ถ้าต้องนั่งนาน ๆ โดย

ไม่ลุกขึ้นเดินหรือเคลื่อนไหวร่างกายก็จะ

เกิดอาการปวด

***ถ้าใครที่เป็นอยู่และยังไม่มีลูกผมขอแนะ

นำว่าถ้าเกิน 40 ปีไปแล้วก็อย่าทนทรมานเลย

ครับแต่ถ้าใครยังต้องการมีลูกก็ฉีดเดือนละครั้ง

ก็ได้ถ้าอยากมีลูกเดือนนั้นก็ไม่ต้องฉีด

เวลาไปก็ต้องไปให้ตรงกับเวลาประจำเดือน

มาด้วยนะครับจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเพราะ

แฟนผมก็เคยเสียเวลามาแล้ว

**แล้วพบกันใหม่ ซำบายดีทุกท่าน

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

คันศรีษะ(คันหัว)


***เรื่องคันหัว(ขอใช้คำนี้นะครับ)ก็นำความรำคาญ

มาให้เหมือนกันเพราะบางทีเราก็เกาจนเป็นแผล

กันทีเดียว เรื่องคันหัวผมเจอมาตั้งแต่สมัยอยู่กับ

ยายช่วงวัยเด็กครับ ช่วงนั้นเป็นแผลเกือบทั้งหัว

อาการคันศรีษะเกิดได้หลายกรณีครับ เช่น

คันหัวจากแผลที่เกิดจากการกัดของแมลง

คันหัวจากเชื้อรา

คันหัวจากผมหงอก หรือ ผมคัน(ขนหมู)

คันหัวจากการที่หนังศรีษะแห้ง

คือมีมากครับแต่วิธีก็มีมาให้ลองรักษากัน ก็ของ

ผมส่วนมากจะเป็นวิธีที่คุณยาย หรือคุณแม่เคย

ทำให้ ส่วนผมหงอกน่ะส่วนมากผมจะถอนให้

แม่มากกว่า (ตอนนี้ก็ต้องถอนให้คุณภรรยาแล้ว)

***ถ้าหัวคันเพราะแผลที่เกิดจากแมลงกัน

ช่วงนั้นจำได้ว่า ยาย จะโกนหัวเลยเพราะผม

เกาจนเป็นแผลทั้งหัว รวมทั้งพี่น้องที่อยู่รวมกัน

เพราะสมัยก่อนเราจะนอนด้วยกันอย่านึกว่าผู้ชาย

จะไม่มี “เหา” นะครับ คุณยายจะโกนหัวทุกคน

แล้วจะนำ หัวไพลฝนกับฝาระมี(ฝาหม้อดินเผา)

จากนั้นจะผสมเหล้าขาวลงไปพร้อมกับละลาย

ดินสอผงผสมกันเสร็จแล้วก็จะทาลงบนหัวกันเลย

เย็นครับแล้วก็ไม่คันต้องทำหลายครั้งหน่อยแต่

หายครับ

***ถ้าคันหัวที่เกิดจากเชื้อราคงต้องไปหาหมอดี

กว่า แต่ที่คุณยายผมรักษาให้ผมคือท่านจะใช้

น้ำอุ่นผสมเกลือแกงเอาพอเค็ม แล้วใช้สำลี

จุ่มแล้วบีบให้พอหมาดแล้วนำไปล้างหรือ

เช็ดตรงบริเวณที่เป็นเชื้อรา หรือไม่คุณยาย

ก็จะใช้ หัวไพลฝนกับฝาระมีแล้วนำเหล้าขาว

มาใส่พร้อมกับใส่ผงขมิ้นลงไปแล้วนำมาทา

ถ้าเป็นเด็กก็โกนหัวแล้วทากันที่เห็นหัวเหลือง

ๆ นั่นแหละครับส่วนถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ทาตรง

บริเวณที่เป็นแล้วกันครับถ้าไม่หายก็ไปหาหมอ

***ถ้าอาการคันหัวที่ไม่มีแผลและไม่เป็นเชื้อรา

น่าจะมาจาก”ผมหงอก”อีกอย่างก็มาจาก”ผมคัน

หรือขนหมู”อย่างนี้ง่ายครับถ้าเป็นผมหงอกก็ถอน

กันเลยส่วนมาจะคันกันเพราะผมหงอกนี้แหละ

แต่ ถ้าถอนแล้วไม่หายคันก็นี้เลยครับน่าจะเกิด

จาก”ผมคันหรือขนหมู”ความรู้นี้ได้มาจากแม่ครับ

ไอ้เจ้า “ผมคันหรือขนหมู” นี้จะมีลักษณะดังนี้

*ผมคัน ก็จะเหมือนผมเรานี้แหละครับเพราะจะเป็น

เส้นสีดำ แต่ถ้าเราหาหงอนจนชินแล้วเราจะสังเกต

ออกว่าผมดำบางเส้นจะมีลักษณะที่ไม่เหมือน

อย่างที่เราได้เห็นหรือได้สัมผัสเพราะผมคัน

จะมีลักษณะเส้นผมจะแบนนอกจากจะเส้นแบน

แล้วจะไม่ตรงครับคือจะขด ๆ งอ ๆ ไม่เหมือน

ผมเส้นอื่น ให้ถอนได้เลยรับรองหายคัน

***ส่วนอาการคันศรีษะอื่น ๆ น่าจะมาจาก

การใช้ยาสระผมเพราะยาสระผมก็เป็นสาร

เคมีชนิดหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นเราต้องลอง

เปลี่ยนยาสระผมไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถูกกับ

หนังศรีษะเรา คืออย่างไปเสียดายครับถ้าใช้

แล้วกันก็เปลี่ยนกันเลย อีกอย่างถ้าสระผมได้

ทุกวันจะยิ่งดีครับอย่างผมก็สระผมทุกวัน

เพราะอากาศสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน

แต่ก่อน 3 วันผมจะสระผมซะทีเพราะอากาศ

ดีไม่ฝุ่นละอองจาก โรงงาน หรือจากไอเสีย

ที่มาจากรถยนต์

***ก็ลองกันดูก่อนนะครับเพราะของโบราณ

ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีเพราะถ้าไม่ดีคนเก่าแก่

สมัยคุณ ปู่,ย่า ท่านคงอยู่กันไม่ได้หรอกครับ

ของบางอย่างดีและไม่ต้องเสียเงินซื้อหรือ

ต้องเสียเงินไปหาหมอกันหรอกเอาใกล้ ๆ

มือนี่และ แล้วพบกันใหม่นะครับ ส่วนใครมี

คำแนะนำดี ๆ ก็แสดงความคิดเห็นกันมาได้

นะครับเพื่อน ๆ จะได้ช่วยกันให้สิ่งที่เป็นประโยชน์

แก่สังคมเรา สวัสดีครับ

วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

สูตรครีมพอกหน้า สูตรที่ ๒

***การพอกหน้านอกจากจะช่วยทำความ
สะอาดรูขุมขนแล้ว ยังช่วยนำเอาเซลส์เก่า
ที่ตายแล้วออกได้หมดการพอกหน้าก็ต้อง
ทำทุกอาทิตย์อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
ผิวคนเราถ้าไม่ดูแลก็หมดสวยได้นะจะบอกให้
***สูตรพอกหน้าจากรำข้าว สูตรนี้ได้มาจาก
ร้านเพื่อนกันวิธีทำดูแล้วไม่ยากก็ให้เตรียมของ
ดังต่อไปนี้
1. รำข้าวใหม่ 7 ขีด
2. เหล้า 3 ช้อนชา
3. แป้งหมี่ 5 ขีดหรือน้อยกว่านี้กะว่าพอเหนียว
4. น้ำมะนาว
ขั้นตอนการทำก็ให้นำเอาส่วนผสมข้างบนมาใส่ภาชนะ
ด้วยการคนให้เข้าแล้วนำน้ำร้อน(อย่าร้อนมาก) มาใส่
ลงไปผสมเพื่อให้มีความเหนียวของเนื้อครีมคนไปจน
เป็นเนื้อเดียวกันแล้วเป็นอันเสร็จ
***สูตรนี้นอกจากจะได้วิตามินซีแล้วยังได้น้ำหล่อเลี้ยง
จากรำข้าวป้องกันการเกิดสิวได้สูตรนี้เหมาะสำหรับ
คนผิวคล้ำ,ผิวแห้ง
**วิธีใช้ก็ล้างหน้าให้สะอาดก่อนแล้วทาครีมที่ทำ
ไว้ให้ทั่วหน้าเว้นบริเวณขอบตาและริมฝีปาก
ให้ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก
ด้วยน้ำอุ่น ให้ทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
อย่าใช้เกินกว่านี้เพราะจะทำให้เกิดสิวได้
**แล้วพบกันใหม่ ซำบายดีทุกท่าน

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

อาการปวดบริเวณขาหนีบ

***ท่านใดเคยมีอาการปวดที่บริเวณขาหนีบ
บ้าง แต่อาการที่แฟนผมเป็นจะปวดมาก
ที่บริเวณขาหนีบ และเรื่อยลงมาถึงช่วงขา
คือจะปวดแบบ หนึบ ๆ และรู้สึกไม่ค่อย
จะสบายตัวเอามาก ๆ
***ไปหาหมอมาก็จะให้แต่ยาแก้ปวด
และแก้อักเสบ พอรับประทานยาก็จะ
หายแต่พอยาหมดฤทธิ์ ก็จะเป็นอีกเหมือนเดิม
หาสาเหตุไม่เจอสักที เป็นทุกข์อยู่นาน
แฟนก็เลยคอยสังเกตว่าเป็นเพราะอะไร
บ้างก็เลยช่วยกันดูอาการก่อนเกิด
***เชื่อว่าน่าจะมาจากอาการท้องผู้ครับ
คือถ้าช่วงไหนไม่ค่อยได้ถ่ายท้องหรือ
ถ่ายได้ไม่มากหรือท้องผู้ช่วงต่อจาก
นั้นจะเจ็บและปวดที่บริเวณขาหนีบมาก
จะปวดแบบหนึบ ๆ ลงไปที่ขาเลยครับ
ก็เลยต้องหาวิธีที่ทำให้ท้องของเรา
ถ่ายได้เป็นปรกติให้ได้ทีแรกก็ไม่เชื่อว่า
จะเป็นจากอาการที่ไม่ถ่ายหรือท้องผูก
หรือเปล่าแต่ก็ลองทำให้ถ่ายท้องให้ได้
ตามปรกติให้ได้มากที่สุด
***ผลคือไม่เคยปวดที่บริเวณขาหนีบ
อีกเลยแต่ถ้าช่วงไหนไม่ได้ถ่ายท้อง
หรือถ่ายท้องตามปรกติสัก 3-4 วันก็
เป็นเรื่องแล้วครับอาการปวดมาเยือน
เหมือนเดิมอีก
***ก็ลองดูนะครับหาอะไรที่รับประทาน
แล้วท้องไม่ผูก และให้ช่วยในการระบาย
อ่อน ๆ ก็จะดีมาก จะเป็นมะละกาสุก
ก็ได้ถ้าวันไหนรู้สึกว่าไม่ค่อยสบายท้อง
หรือไม่ถ่ายมาหลายวันก็ลองทำดู
***แล้วช่วยบอกมาหน่อยนะครับว่า
ผลเป็นอย่างไร อย่างน้อยก็สบายใจ
ได้ว่าไม่มีผลข้างเคียงอะไรแน่เพราะ
เราไม่ได้กินยาหรือผลิตภัณฑ์ อะไร
ที่เป็นพิษต่อร่างกายแค่ระวังเรื่องอาหาร
ที่เรารับประทานลงไปเท่านั้น
**แล้วพบกันใหม่ ซำบายดีครับทุกท่าน

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

เกลือ กับหัวล้าน เกี่ยวอะไรกัน

***เป็นเรื่องของเกลือนำมาจากบล็อก
เดิมมาอยู่ชื่อใหม่เป็นเรื่องที่มาจาก
คนเฒ่าคนแก่เพราะใช้แล้วได้ผลก็
เลยนำมาฝากกันลองดูก่อนก็ไม่เสียหาย
อะไรเพราะเกลือไม่แพง
*****เกลือ ได้ยินคำว่า เกลือ ทุกคนคงรู้สรรพคุณของ เกลือ กันดีอยู่แล้ว
ว่า เกลือ นั้นเค็มขนาดไหน ดังสุภาษิตที่ว่า เค็มเหมือนเกลือ
ใครเคยโดนเม้าท์ว่า เค็มเหมือนเกลือ ก็ไม่ต้องคิดมากนะคะ เพราะ
เกลือ ยังไงก็ไม่ทิ้งความเค็ม จะเอาอะไรมาเจอปนก็ไม่ทำให้ เกลือ
เปลี่ยนไปจาก เกลือ ได้เลย
****เกลือ นำไปเป็นเครื่องปรุงในอาหารหลายชนิด ทั้งแกงเผ็ด แกงจืด
เกลือ ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น
สมัยก่อน ก็ได้เอาข้าวสาร ไปแลกกับ เกลือ เกลือ จึงมีความสำคัญ
มาแต่นมนานแล้ว และสรรพคุณของ เกลือ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปตาม
กาลเวลาเลย เหมือนคนรักษาความดี ดั่ง เกลือ รักษาความเค็ม
จริงไหมคะ
****เกลือ ที่นำมาเสนอในบทความนี้ คือนำ เกลือ มาใช้ป้องกันคนที่
กำลังจะหัวล้าน หรือได้ล้านไปแล้ว ก็ไม่ต้องตกใจค่ะ เกลือ ยัง
สามารถช่วยคุณได้
เราไปดูวิธีการนำ เกลือ ไปทำให้หายหัวล้านกันเลยค่ะ
******* เมื่อรู้สึกว่าผมเริ่มบางลงเรื่อย ๆ หรือ
ร่วงเป็นกระจุก แต่ยังไม่ถึงกับล้าน
******* ให้เอา เกลือ มาละลายกับน้ำอุ่น
เอามานวดศีรษะ บริเวณที่ผมร่วงเริ่มบางลง
******* ให้ใช้ เกลือ นวดทุกวันนะคะ
เพื่อให้น้ำ เกลือ ซึมลงไปในหนังศีรษะ
ทิ้งไว้สักครู่
******* แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดก่อน
แล้วจึงใช้แชมพูสระผมตามปกติค่ะ
******* หมั่นเอา เกลือ มานวดศีรษะก่อนสระผมทุกครั้ง
ไม่นานเส้นผมของคุณจะไม่ร่วง กลับมาดกดำได้อีกครั้ง
ขึ้นอยู่ว่าคุณขยันเอา เกลือ มาทำอยู่ตลอดหรือเปล่า
*** แล้วเจอกันในบทความต่อไป สบายดีค่ะ ***

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

สูตรพอกหน้า

****มาทำสวยแบบประหยัด ๆ กันดีกว่า
เรื่องของหน้าสำคัญมาก เพราะเห็นก่อน
และที่สำคัญเป็นเรื่องที่คุณผู้หญิงต้องเน้น
ก่อนเสมอ ก็เลยนำสูตรพอกหน้า มาฝากกัน
ทำได้ด้วยตัวเองวันนี้แนะนำ “น้ำผึ้งผสมงา”
***สูตร “น้ำผึ้งผสมงา” เหมาะกับคนที่มีผิว
หน้าแห้ง และก็เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีรอยเหี่ยว
มาเยือน
***ส่วนผสม
++งา จะเป็นงาขาว หรือ งาดำ ก็ใช้ได้
++น้ำผึ้งแท้นะ
***การทำ ก็ให้นำงาประมาณ 2 ช้อนชานำมา
บดให้ละเอียด (ไม่ต้องคั่ว) จากนั้นก็นำน้ำผึ้ง
มาผสมเล็กน้อย ประมาณว่าให้ข้นหน่อยประมาณ
1 ช้อนชา เพิ่มได้ตามส่วน
***ก่อนใช้ ก็ล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นก็นำ
สูตรที่ผสมเตรียมไว้แล้ว นำมาทาให้ทั่ว
โดยเว้น บริเวณรอบปาก และ รอบขอบตาไว้
ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที หรือประมาณว่า
เราเริ่มร้อนที่หน้าก็ให้ล้างน้ำออกโดยให้ล้าง
ด้วย “น้ำอุ่น” เช็ดให้แห้ง จากนั้นก็แล้ว
แต่ว่าคุณจะทาอะไรก่อนนอน
**แล้วจะไปถามมาให้อีกนะ เพราะ
เห็นใช้กันแล้วหน้าสวยกันทั้งนั้นแล้ว
พบกันใหม่ หวัดดี จ๊าบ

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

เคล็ดลับการดูแลร่างกาย 1

****คุณผู้หญิงมักเสียเวลาหรืออาจหมดความ
มั่นใจไปทันทีที่ร่างกายบางอย่างไม่สวยหรือ
ไม่เป็นที่ถูกใจ อย่างแฟนผมแน่นอน ว่าความ
มั่นใจของผู้หญิงต้องมาพร้อมกับความสมบูรณ์
ของทุกส่วนของร่างกายวันนี้ก็เลยนำเอา
บางอย่างที่จำได้ว่าแฟนผมใช้อยู่บ่อย
เผื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์บางนะครับ
***เรื่องของตาบวม ร้องไห้มา หรือจะ อะไร
ก็แล้วลองใช้วิธีนี้กันนำช้อน(ที่ใช้รับประทาน
อาหาร)นำไปแช่ในตู้เย็น ไม่ใช่เอามาทาน
นะครับแต่ให้นำมาวางลงบนเปลือกตา
จะกว่าอาการบวมนะลดลง หรือ วิธีง่าย
และได้ผลก็ ให้ฝานแตงกวาเป็นแผ่น
บาง ๆ วางลงบนเปลือกตา จนกว่าจะ
แห้งหรือประมาณ 15 นาทีก็ได้แล้วครับ
***ในกรณีที่ตาช้ำเพราะอดนอนหรือ
พักผ่อนไม่เพียงพอ ก็ควรดื่มน้ำมาก ๆ
ประมาณว่าวันละ 8-10 แก้วและควรนอน
ให้หลับอย่างนอนวันละ 8 ชั่วโมงเป็น
อย่างน้อย ถ้าอยากให้หายไว้ก็แนะนำ
แตงกวาเหมือนเดิมครับสุดยอด
***ของที่ไม่อยากได้ของผู้หญิงคืออะไร
คำตอบ “ตีนกา”ไม่ต้องไปทำศัลยกรรม
ให้เสียเงินทองหรอกครับ ให้ลองใช้ครีม
กันแดดที่ SPF 15 ขึ้นไปร่วมกับครีมบำรุง
ผิวทีมีส่วนผสมของ Retin-A เช๊ดเบานะครับ
และควรจะให้แว่นกันแดดบ้างเมื่อเวลา
อยู่กลางแดดนาน ๆ
**ก็เล็กน้อยครับถ้าใครจะแนะนำอะไร
ก็แสดงความคิดเห็นกันเข้ามานะครับ
จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้ามาท่านอื่นด้วย
สวัสดีครับ ขอให้สวยวันสวยคืนครับ

อาการโรคภูมิแพ้

                               โรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้เป็นปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดการตอบสนองที่ผิดปกติต่อสารท...